ซีเนอร์ไดโอด (Zener Diode)
1. โครงสร้างและสัญลักษณ์ของซีเนอร์ไดโอด
                ซีเนอร์ไดโอด (Zener Diode) เป็นไดโอดชนิดพิเศษที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่รักษาแรงดันให้คงที่ มีโครงสร้างเหมือนไดโอดธรรมดาทั่วๆ ไป แต่ไดโอดธรรมดาทั่วไปเมื่อทำการไบอัสกลับจนถึงค่าแรงดันเบรกดาวน์จะทำให้เกิดการเสียหายได้ ซีเนอร์ไดโอดเป็นไดโอดที่ผลิตจากสารซิลิกอนที่มีปริมาณความหนาแน่นของสารเจือปนในส่วนทั้งสองของสารพีและเอ็นมีค่าสูงกว่าปกติ ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวจะทำให้ค่าแรงดันเบรกดาวน์สูง และค่าแรงดันเบรกดาวน์หรือแรงดันซีเนอร์สามารถกำหนดได้ด้วยการควบคุมความหนาแน่นของสารเจือปนและเมื่อให้ไบอัสกลับจะสามารถทนกระแสย้อนกลับได้สูงโดยไดโอดไม่เสียหาย แรงดันที่ตกค่อมตัวซีเนอร์ไดโอดจะเป็นตัวควบคุมและรักษาแรงดันให้คงที่
รูปที่ 1 แสดงโครงสร้างและสัญลักษณ์ของซีเนอร์ไดโอด
รูปที่ 2 แสดงกราฟลักษณะสมบัติทางไฟฟ้าของซีเนอร์ไดโอด
            การพังทลายของซีเนอร์ไดโอดแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ การพังทลายแบบอะวาเลนซ์ (Avalanche) คือเมื่อไดโอดได้รับไบอัสกลับแรงดันสูงสุดจนทำให้มีกระแสไหลย้อนกลับผ่านไดโอดจำนวนมากทำให้รอยต่อของไดโอดทะลุและใช้งานไม่ได้ การพังทลายอีกแบบหนึ่งคือ การพังทลายแบบซีเนอร์ เป็นการพังทลายที่เกิดขึ้นกับแรงดันไบอัสกลับค่าต่ำๆ ซึ่งกำหนดได้จากการโด๊ปสารกึ่งตัวนำที่ใช้ผลิตซีเนอร์ไดโอด การพังทลายแบบซีเนอร์นี้จะมีกระแสไหลผ่านซีเนอร์ไดโอดจำนวนหนึ่ง ซึ่งต้องจำกัดไม่ให้เกินค่าพิกัดสูงสุดและจะเกิดสภาวะที่แรงดันตกคร่อมซีเนอร์ไดโอดมีค่าคงที่เรียกว่า แรงดันซีเนอร์ คุณสมบัติข้อนี้สามารถนำซีเนอร์ไดโอดไปเป็นวงจรควบคุมแรงดันไฟตรงให้คงที่ได้
3. คุณลักษณะของการพังทลาย
                จากกราฟคุณสมบัติทางไฟฟ้าขอแรงดันและกระแสดังรูปที่ 3      VZ เป็นแรงดันเบรกดาวน์หรือแรงดันซีเนอร์ ในการพังทลายของซีเนอร์ไดโอดเมื่อได้รับไบอัสกลับ เมื่อเพิ่มแรงดันไบอัสกลับจนถึงค่าแรงดันซีเนอร์จะมีกระแสไหลผ่านซีเนอร์ไดโอดมากขึ้น ที่จุดเอียงของกราฟจะมีกระแสไหลผ่านซีเนอร์ไดโอดเท่ากับ IZ (knee current) ซึ่งเป็นกระแสบริเวณเส้นโค้งดังรูปที่ 3   และถ้าซีเนอร์ไดโอดได้รับแรงดันย้อนกลับสูงขึ้นอีก กระแสจะเพิ่มขึ้นแต่แรงดันซีเนอร์จะคงที่ แต่ถ้าเพิ่มกระแสเกินกว่าค่ากระแสซีเนอร์สูงสุด IZm(maximum  current) แรงดันซีเนอร์จะไม่คงที่และชำรุดได้
รูปที่ 3 กราฟแสดงลักษณะสมบัติทางไฟฟ้าของซีเนอร์ไดโอดเมื่อได้รับไบอัสกลับ
                ดังนั้นการนำซีเนอร์ไดโอดไปใช้งานในการควบคุมให้แรงดันไฟตรงคงที่นั้น จึงต้องออกแบบวงจรควบคุมให้มีกระแสไหลผ่านซีเนอร์ไดโอดอยู่ระหว่างค่ากระแสบริเวณเส้นโค้ง IZK ถึงค่ากระแสสูงสุด IZM สำหรับกระแส Izt หมายถึง ค่ากระแสทดสอบที่แรงดันซีเนอร์ซึ่งเป็นค่ากระแสตามค่าที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ในตารางคุณสมบัติของซีเนอร์ที่ใช้งานทั่วไป
4. วงจรสมมูลของซีเนอร์ไดโอด
                เนื่องจากซีเนอร์ไดโอดมีคุณสมบัติรักษาแรงดันคงที่เมื่อได้รับไบอัสกลับ ในทางอุดมคติ
ซีเนอร์ไดโอดจึงมีวงจรเทียบเท่าหรือวงจรสมมูลเป็นแบตเตอรี่มีขนาดแรงดันไฟตรงเท่ากับแรงดันซีเนอร์ไดโอด VZ (Zener Voltage) โดยมีขั้วบวกของ VZ อยู่ที่ขาแคโถดและขั้วลบอยู่ที่ขาแอโนด ดังรูปที่ 4  ก. แต่ในทางปฏิบัติจะมีค่าความต้านทานภายในรอยต่อ (RZ)  ของซีเนอร์ไดโอดอยู่ด้วย วงจรสมมูลของซีเนอร์ไดโอดในทางปฏิบัติจึงเป็นดังรูปที่ 4   ข.  ซึ่งค่าความต้านทานภายในของซีเนอร์ไดโอดนี้สามารถคำนวณหาได้จากสมการ  1
รูปที่ 4 วงจรสมมูลของซีเนอร์ไดโอด
5. ตารางคุณสมบัติของซีเนอร์ไดโอด
                การที่จะนำซีเนอร์ไดโอดมาใช้งานจำเป็นจะต้องทราบพิกัดต่างๆ ของซีเนอร์ไดโอดเช่น แรงดันซีเนอร์, อัตราทนกำลังไฟสูงสุด ซึ่งสามารถศึกษาได้จากคู่มือดังแสดงในตาราง
เบอร์  | VBR  (V)  | IT (mA)  | VRWM (V)  | IR  (  | IRMS (mA)  | VRMS (V)  | 
1N6267A  | 6.8  | 10  | 5.8  | 1000  | 143  | 10.5  | 
1N6268A  | 7.5  | 10  | 6.4  | 500  | 132  | 11.3  | 
1N6269A  | 8.2  | 10  | 6.02  | 200  | 124  | 12.1  | 
1N6270A  | 9.1  | 1  | 6.78  | 50  | 112  | 13.4  | 
1N6271A  | 10  | 1  | 8.55  | 10  | 103  | 14.5  | 
1N6272A  | 11  | 1  | 9.4  | 5  | 96  | 15.6  | 
1N6273A  | 12  | 1  | 10.2  | 5  | 90  | 16.7  | 
1N6274A  | 13  | 1  | 11.1  | 5  | 82  | 18.2  | 
1N6275A  | 15  | 1  | 12.8  | 5  | 71  | 21.2  | 
                VBR (V)            หมายถึง           แรงดัน Breakdown  Voltage
                IS (A)                 หมายถึง          กระแสที่ไหลผ่านซีเนอร์ไดโอดขณะที่มี RS
                VRM (V)            หมายถึง          แรงดันย้อนกลับสูงสุด
                IR (
A)             หมายถึง          กระแสรั่วไหลสูงสุด
                IRMS (A)            หมายถึง          กระแสไหลย้อนกลับไม่คงที่
                VRMS (V)           หมายถึง          แรงดันย้อนกลับสูงสุด
6. การใช้งานซีเนอร์ไดโอด
                ซีเนอร์ไดโอดนำไปใช้งานหลายอย่างเช่น วงจรคลิป (Clipping  Circuit) วงจรรักษาแรงดันให้คงที่ (Voltage Regulator  Circuit) โดยเฉพาะในวงจรรักษาแรงดันให้คงที่ ดังรูปที่ 5  ในการต่อใช้งานทุกครั้งจะต้องมีความต้านทานต่ออนุกรมเสมอ เพื่อป้องกันกระแสไหลผ่านซีเนอร์ไดโอด (IZ) เกินค่าพิกัดซึ่งจะทำให้ชำรุดได้และตัวต้านทานที่ใช้จะต้องมีการคำนวณหาค่าความต้านทานที่เหมาะสมวงจรจึงจะทำงานได้ดี
รูปที่ 5 วงจรรักษาแรงดันให้คงที่
การควบคุมแรงดันให้คงที่ด้วยซีเนอร์ไดโอด
1. การควบคุมแรงดันให้คงที่ด้วยซีเนอร์ไดโอด
                        วงจรแหล่งจ่ายกำลังไฟเบื้องต้นประกอบไปด้วยหม้อแปลง ไดโอดเรียงกระแสและตัวเก็บประจุกรองแรงดัน มีข้อดีคือ การประกอบใช้งานง่ายแต่มีข้อเสียคือ แรงดันไฟตรงที่ได้จะยังไม่เรียบมีการกระเพื่อมหรือริปเปิล (Ripple) สูงและอัตราการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของแรงดันเมื่อมีโหลดและไม่มีโหลดซึ่งเรียกว่าวงจร โวลต์เตจเร็กกูเลชั่น (Voltage Regulation) สูง ไม่เหมาะสำหรับเป็นภาคจ่ายไฟให้วงจรขยายสัญญาณระดับต่ำ เช่น ปรีแอมป์ การลดริปเปิลของภาคจ่ายไฟลงนิยมใช้วงจรกรองกระแสแบบอาร์ซี (RC Filter) แต่ก็ยังมีโวลต์เตจเร็กกูเลชั่นสูง
อยู่ ดังนั้นวงจรซีเนอร์ไดโอดโวลต์เตจเร็กกูเลเตอร์จึงถูกนำมาใช้ในวงจรจ่ายไฟกำลังต่ำ เพื่อขจัดปัญหาเกี่ยวกับริปเปิลและโวลต์เตจเร็กกูเลชั่น
                การนำซีเนอร์ไดโอดมาใช้ในวงจรจ่ายไฟกำลังต่ำกระทำได้โดยต่อซีเนอร์ไดโอดอนุกรมกับตัวต้านทานแล้วนำไปต่อกับเอาท์พุทของวงจรจ่ายไฟเบื้องต้น ส่วนแรงดันเอาท์
พุทของวงจรคือแรงดันตกคร่อมซีเนอร์ไดโอดดังรูป 1
รูปที่  1
                ตัวต้านทานที่นำมาต่ออนุกรมกับซีเนอร์ไดโอดจะต้องมีค่ามากพอที่จะจำกัดกระแสไม่ให้ไหลผ่านซีเนอร์ไดโอดในขณะไม่มีโหลดเกินค่ากระแสสูงสุด (Izm) ที่ซีเนอร์จะทนได้ การต่อซีเนอร์ไดโอดจะต่อในลักษณะไบอัสกลับและแรงดันเอาท์พุทจะมีค่าเท่ากับแรงดันของซีเนอร์ไดโอด
2. การออกแบบวงจรซีเนอร์ไดโอด
การเร็กกูเลเตอร์โดยการใช้ซีเนอร์ไดโอดจะเหมาะสำหรับโหลดหรือวงจรที่กินกระแสไม่มากนัก    เพราะถ้าโหลดต้องการกระแสมาก    จะสิ้นเปลืองกว่าการเร็กกูเลเตอร์แบบอื่นๆ    การออกแบบวงจรจะต้องคำนึงถึงสภาวะสองสภาวะ  คือ  สภาวะมีโหลดและสภาวะไม่มีโหลด   ดังตัวอย่างการออกแบบดังต่อไปนี้    สมมุติว่าวงจรปรีแอมป์ต้องการไฟตรง 9 V/15 mA  ให้ออกแบบวงจรดังรูปที่ 2  ให้เหมาะสมต่อการใช้งาน   มีหลักการในการออกแบบดังนี้
                                                                                                                                              รูปที่ 2
กระแสที่ไหลผ่านซีเนอร์ไดโอดควรมีค่า 
 0.1 IL max   แต่ไม่ควรต่ำกว่า  5 mA
        IZ   =   5 mA
จะได้กระแสที่ไหลผ่านตัวต้านทาน RS  จาก
        IS   =   5 mA + 15 mA   =   20 mA
คำนวณหาแรงดันที่ตกคร่อม  C1
        จากสูตร   VC1   =   Vrms  x 
   =   12 V x 1.414   =   16.968 V
คำนวณหาค่าตัวต้านทาน  RS
        จากสูตร   RS   =   
   =   
   =   398.4 Ω  เลือกใช้ 390  Ω
คำนวณหากำลังวัตต์ของซีเนอร์ไดโอด
         PZ   =   VZ x IZM   =   9 V x 20 mA   =   180 mW  เลือกใช้ขนาด 9 V / 1/4 W
คำนวณหากำลังวัตต์ของตัวต้านทาน  RS
       PRS   =   VRS x IS   =   ( 16.968 V – 9 V ) x 20 mA   =   159.36 W  ใช้ขนาด 1/4 W
คำนวณหาค่าความต้านทานโหลดเมื่อกระแสไหลผ่านโหลด 15 mA
         RL   =   
   =   
   =   531.2 Ω  เลือกใช้ 560  Ω / 1/4 W
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น